11 กันยายน 2558

[AU] #dmbjdaily 6 days left : กาว (พานสาม)


ผมกัดฟันมองหน้าไอ้(ห่า)นักศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์คนหนึ่งอยู่ แล้วโยนtextเล่มหนึ่งลงบนโต๊ะใส่หน้ามัน รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะสบถด่าแต่ต้องรักษาภาพพจน์ความเป็นอาจารย์ไว้


คุณลองไปศึกษาพวกโครงสร้างของตึกมาใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่ต้องจำลองมาให้ผมดู แต่คุณไปขึ้นแบบใน Psมาให้ผมดูแทน ผมให้เวลา 3 วัน ถ้าคุณยังปล่อยปละละเลยงานของคุณผมจะไม่ช่วยคุณอีก


ครับ...มันรับคำแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม มือก็เก็บหนังสือที่ผมโยนให้เมื่อครู่ ยิ้มยียวนก่อนจะจูบแก้มผมเร็วๆหนึ่งทีอาจารย์....


ไอ้พานจื่อ!!!ผมแหกปากลั่นคว้าไม้สเกลใกล้ๆหยิบปาใส่พานจื่อที่รีบวิ่งออกจากห้องพักอาจารย์ไป ห่านี่ จะให้ตบะแตกจนได้สินะ


เชี่ยเหอะ


ขยันสร้างความหงุดหงิดให้คนอื่นเขาซะจริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ ผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของสาขาพานจื่อ ตอนเข้ามาใหม่ๆเขาก็ยังทำงานส่งตามปกติ สอบได้ดีด้วยซ้ำเข้าขั้นเรียนดีคนหนึ่งเลย แต่ต่อมาเรื่อยๆความสนิทมีมากขึ้นไง เขาก็กวนตีน หยอกนั่นเย้านี่ไปเรื่อยเปื่อย จนผมรู้ว่าเขาชอบผมนั่นแหละ ในฐานะอาจารย์กับนักศึกษาน่ะผิด แต่นอกมหาลัยไม่ได้ผิดนี่หว่า สรุปคือเขาก็เป็นนักศึกษาในรั้วมหาลัยข้างนอกเป็นแฟนผม


แล้วผมเคยบอกเขาไปแล้วหลายหนว่าตอนอยู่ในมหาลัยห้ามทำอะไรแบบนี้ พูดหยอกก็ไม่ได้คนอื่นจะมองไม่ดี แต่เขาก็ยังทำ ถึงแม้คนอื่นจะไม่เห็นก็เหอะ ผมเคยโกรธเขาจนไม่อยากคุยด้วย แต่ก็โดนเขาดึงไปจูบจนปากแทบแหลกคาปากมันไง สุดท้ายก็ต้องยอม


แล้วครั้งนี้ก็อีก ไอ้แบบจำลองเนี่ยมันไม่ได้ยากเย็นมากมายเลยเหอะ ส่งมาชุ่ยๆจนต้องแก้สองสามรอบ เรียกมาพบทุกครั้งเขาก็จะหาเศษหาเลย อย่างเขาน่ะเหรอไม่ได้เรื่อง หาเรื่องมาแกล้งมาแหย่ผมมากกว่า ผมถอดแว่นตาออกก่อนจะพับแขนเสื้อขึ้นนั่งลงบนโต๊ะทำงานเตรียมเนื้อหาไปสอนต่อช่วงบ่ายข่มจิตข่มใจที่เต้นผิดจังหวะทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้


ก็ชอบเหมือนกันไง แต่สถานะและสถานที่มันไม่เอื้ออำนวย อดทนหน่อยก็ไม่ได้


โอ๊ะ!...อะ...อ้าวอาสาม เอ่อ ผมช่วยถือมั้ยผมที่กำลังเดินออกห้องมาได้สามสี่ก้าวก็เจอหลานชายตัวดีของผมที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำพอดี ดูลุกลี้ลุกรนแปลกๆ รีบไปไหนของมัน


อย่ามากวนประสาทฉัน แล้วทำไมเสื้อแกถึงหลุดรุ่ยแบบนั้น ทั้งชายเสื้อปกคอเสื้อผมมองเขาที่จับปกคอเสื้อให้เข้าที่เข้าทางอย่างงกๆเงิ่นๆ


ผมมาเข้าห้องน้ำไง...แล้ว...แล้วเอ่อ..คือผมลืมจัด...เขาตอบเสียงเบาถ้าอาไม่ให้ผมช่วยผมไปแล้วนะ


นายจะไปไหน อู๋เสีย


หลานชายผมที่กำลังจะหันหลังขมวดคิ้วกับเสียงนิ่งๆเสียงหนึ่งที่เรียกเขา  หมอนี่แต่งตัวไม่เรียบร้อยเหมือนกัน แต่มันไม่ได้หลุดรุ่นแบบอู๋เสีย เขาเดินออกมาจากห้องน้ำมายืนใกล้ๆผม


ไอ้เด็กพวกนี้


อะ...ไป....ไปเรียนไง นายจะไปไหนก็ไปสิ!เขาตะโกนใส่ไอ้หมอนี่ก่อนจะรีบวิ่งออกไป ผมมองคนข้างๆที่สูงกว่าตัวเองนิดหน่อยกำลังจะเดินออกไป


เดี๋ยวก่อน


“...?”


เป็นเพื่อนหลายชายฉันหรือ?”


ครับ


ฝากบอกเขาด้วย คราวหน้าเรียกอาจารย์ ห้ามเรียกอาสาม แล้วพวกนาย….”  ผมชี้หน้าเขาห้ามทำอะไรแบบนี้อีก


อย่างน้อยก็ห้ามทำในมหาลัย

ผมว่าเสร็จก็หมุนตัวเดินออกมา ยกนาฬิกาที่ข้อมือพบว่าเลทไปเกือบ5นาทีแล้ว สามชั่วโมงวันนี้กับนักศึกษาปีสาม


เอ่อ...คุณอู๋คะ คุณช่วยเอาเอกสารไปคืนคุณเซี่ยที่คลาสข้างๆคุณหน่อยได้ไหมคะ พอดีฉันรีบไปจริงๆค่ะ คุณพอจะสะดวกไหมคะผมกำลังจะเดินถึงห้องแล้วกลับเจอเหวินจิ่นกลางทาง เธอดูรีบร้อน ผมลังเลครู่หนึ่งเพราะตอนนี้ผมก็สายมากแล้วเช่นกัน แต่เห็นเธอดูรีบจริงๆจึงรับปากไป


ได้ครับ


อ่า คุณดูของเยอะอยู่แล้วนี่คะ งั้นรอสักครู่นะคะเดี๋ยวฉันไปเรียกนักเรียนในคลาสคุณสักคนมาช่วยถือ
ไม่เป็น....จะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ไม่ทันแล้ว เธอวิ่งไปก่อนผมจะพูดจบซะอีก เธอดูไม่เกรงใจผมเลยแต่กลับไปเรียกให้คนมาช่วยถือแทน ดูท่าธุระครั้งนี้จะสำคัญมากจริงๆ


ยืนรออยู่สักครู่ก็เห็นนักศึกษาชายตัวสูงเดินตรงมาทางผม ไอ้หน้าหล่อๆ นั่นผมจำได้ดี


กลับเข้าห้องเรียนไป ฉันถือเองได้


เขาไม่ได้พูดอะไร แต่เลิกคิ้วแล้วแย่งเอาของในมือผมไปหมดอาจารย์เฉินบอกให้ผมมาช่วย คุณอย่าเรื่องมากเลยน่าเขาพูดก่อนจะหันหลังเดินไปทันที


ฉันบอกว่าไม่ต้องมายุ่งไง แล้วคราวหน้าก็อย่าทำแบบในห้องอีก เรียกฉันว่าอาจารย์อย่าเรียกชื่ออื่นผมพูดประโยคท้ายเสียงเบา ยอมเดินตามเขาไปเฉยๆ


ชื่อไหนล่ะเขาหยุดเดินจนผมที่เดิมตามเกือบชนหลังคุณไม่อยากให้คนอื่นรู้ขนาดนั้นเลยรึไง?”


ผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่หรือผมจ้องหน้าเขาว่ามันไม่ใช่แบบนั้น


ตอบที่ผมถามเขาหันหน้ามาสบตาผมกลับ เป็นผมเองที่ทนสายตาแบบนั้นของเขาไม่ได้


คุณจะทำผมสายไปมากกว่านี้ รีบเข้าห้องเรียนเถอะ นี่ผมเลทมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วผมพูดตัดบทถอนหายใจก่อนจะเดินนำเขาไป พานจื่อเป็นพวกใจร้อน แม่งก็พอพอกันกับผมน่ะแหละ ถ้าพูดคุยกันตอนนี้นอกจากผมจะไม่ได้สอนแล้วยังต้องทะเลาะกับเขาอีกแน่ๆ



------------------------------------------------------------------------------------


วันนี้พอแค่นี้ อย่าลืมไปทวนตรงที่ผมสอนไปวันนี้ด้วย


ผมพับหนังสือในมือ พยักหน้าให้นักศึกษาที่เดินมาเคารพ เสียงเก้าอี้เลื่อนเสียงดังระงมเพราะนักศึกษากำลังทยอยออกจากห้อง เมื่อเช็คความเรียบร้อยเสร็จก็จะเดินออกจากห้องเรียนกลับบ้าน


อะ....เชี่ย! ใครวะเนี่ย!


ในขณะที่กำลังจะเดินออกไปแขนถูกดึงกลับเข้ามาในห้อง ประตูห้องเรียนถูกปิดเสียงดังลั่น ก่อนที่ไหล่กับลำตัวจะถูกกดแนบไปกับประตู ผมตะโกนด่าลั่นใช้หนังสือในมือเตรียมจะฟาดใส่หน้าคนที่ทำแบบนี้แต่เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นทำให้มือหยุดชะงัก


ตอบที่ผมถามมาก่อนพี่สาม


ผมบอกว่าอย่า...อะ นี่!ผมกำลังจะตอบเขา แต่เขาก้าวประชิดเข้ามาใบหน้าแทบชิดหน้าผมทำอะไรของนาย!


เขายิ้มมุมปาก ก่อนที่ผมจะนึกได้ว่าเผลอเปลี่ยนสรรพนามที่เรียกเขาออกไป ก้มหน้าหลบสายตาแวววาวของเขาที่มองมา


หละ...หลีกไป


ลำบากใจนักรึไง ที่ต้องผมเรียกแบบนี้ผมเงยหน้าจ้องหน้าเขาทันที รู้สึกโมโหขึ้นมา


เออ! ลำบากใจมาก ถ้านายแม่งเรียกคนอื่นก็จะรู้ ฉันจะเดือนร้อน ฉันถึงไม่อยากให้คนอื่นรู้ไง พอใจรึยังวะ!!ผมตะโกนใส่หน้าเขา หอบหายใจเพราะเผลอใช้เสียงมากไป รู้สึกแสบที่ตานิดๆ


คุณทำให้ผมโมโหเขากดเสียงต่ำ คว้าต้นแขนผมเข้าไปหาตัวแล้วบีบจนผมรู้สึกเจ็บจนต้องเบ้หน้า หนังสือในมือร่วงหล่นไปที่พื้นจนหมด


ปล่อยฉัน มันเจ็บ!


เจ็บแล้วคิดว่าผมไม่เจ็บรึไงวะ!


ฉันบอกนายไปแล้วนี่!!ผมตะโกนแข่งกับเขานายลองกลับไปคิดดูนะว่าเพราะอะไร! ฉันเป็นอาจารย์ นายเป็นนักศึกษา ถ้าทำแล้วคนอื่นมาเห็นจะเป็นยังไง!


“...”

ตอนอยู่ข้างนอกฉันเคยห้ามนายหรือไง….อย่างี่เง่านักได้ไหม..ฉัน..อื้อ”  


พานจื่อปล่อยแขนผม  จับไหล่ผมเข้าไปหาก้มหน้าแนบริมฝีปากลงมาเต็มรัก ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาทำให้ผมตกใจจนเผลออ้าปากรับลิ้นที่สอดเข้ามาในปากของผมอย่างรวดเร็ว ผมทั้งดันทั้งผลักแต่ก็ไม่เป็นผลสุดท้ายก็ยอมโอนยอมอ่อนอยู่ในอ้อมแขนเขา หลังผมกระแทกกับประตูเสียงดังจนกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยินเข้า แต่นั่นไม่ทำให้ไอ้หมาบ้าที่ระดมกดริมฝีปากลงมาที่ปากของผมให้หยุดได้เลย เขาเอียงหน้าเปลี่ยนมุมหลายรอบเพื่อจะจูบได้ถนัดในขณะที่ผมยืนแทบหมดแรงอยู่ตรงนั้น เสียงจูบของเราดังก้องไปทั่วบริเวณ ผมที่กำลังจะหมดลมหายใจกำเสื้อที่อกเขาแน่นทั้งทุบทั้งหยิก ก่อนที่เขาจะผละใบหน้าออกไป


แฮ่ก แฮ่ก


ผมขอโทษมือเขารั้งเอวผมเข้ไปากอด ริมฝีปากที่ยังคลอเคลียไล่จูบไปตามมุมปาก ใบหน้า ก่อนที่จะเลื่อนไปจูบเบาๆที่ข้างแก้ม ผมหอบอย่างเดียวไม่มีแรงจะไปต่อต้านอะไรเขาอีก เงยหน้ามองสบตาเขาที่มีแววเว้าวอนอยู่ในนั้น


“....”


อือ...ผมพยักหน้าน้อยๆ พานจื่อก้มลงมาจูบเบาๆที่แก้ม มือเขาที่เริ่มสอดเข้ามาใต้เสื้อ  ปกคอถูกแหวกออกนิดหน่อยก่อนที่ริมฝีปากอุ่นร้อนจะเลื่อนลงมาทาบทับ ผมสะดุ้งจนได้สติรีบผลักเขาออก


ไม่เอา....


“?”


ไม่ใช่ที่นี่


ผมก้มเก็บหนังสือก่อนจะวิ่งออกห้องไปหน้าร้อนแทบไหม้




-----------------------------------------------------------------------------------------

อาสามในคราบอาจารย์มหาลัยกับนักศึกษาหัวใจชื่อพานจื่อ /// คล้องจ้องจนตั้งตั้งชื่อไหมฉัน..
เนื้อหาอาจไม่เกี่ยวกับกาวแปะกระดาษค่ะแต่เป็นเรื่องกา....//แค่กๆๆๆ
ว่าแต่ในคลาสของพานจื่อมีกล้องวงจรปิดไหม......



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น