อู๋เสียกำลังเดินผ่านซอยช่วงตัดของถนนเส้นเดิม เส้นที่เขาเคยถูกแมวสีดำข่วนจนได้แผลเข้าให้ที่แขน
เป็นเพราะว่าวันนี้ต้องต้องกลับบ้านค่ำ
การเดินลัดเข้ามาทางนี้ถือว่าใกล้และทำเวลาดีที่สุดแล้ว
อู๋เสียกำลังพยายามเดินช้าๆ
เพื่อไม่ให้ถึงจุดที่เคยเจอเจ้าแมวนั่น
แต่เมื่อนึกได้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรปัญญาอ่อนอยู่ก็ล้มเลิกความคิดและเดินปกติ
พลางนึกว่าถึงอย่างไรฉันก็ต้องเดินผ่านตรงนั้นละวะ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว
แต่เมื่อใกล้จะถึง
กลับรู้สึกผวาเล็กน้อย จึงทำใจเดินไปเร็วๆ คิดเข้าข้างตัวเองว่าวันนั้นหากไม่เข้าไปหาเจ้าแมวก่อน ก็คงไม่ต้องเจ็บถึงขั้นได้แผลและโดนอารองบ่น
แต่ครั้งนี้เขาจะเดินผ่านมันไป
ไม่มีอะไรต้องกลัว
สองขาก้าวยาวๆแทบจะเป็นวิ่ง
แต่...
“โอะ......เฮ้ย!”
อู๋เสียตกใจจนผงะล้มนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น
ตรงหน้ามีแมวสีดำตัวหนึ่งนั่งอยู่ เขาขมวดคิ้ว พึมพำเบาๆ “เจ้าแมวนี่มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย”
อู๋เสียนั่งนิ่งๆอยู่ที่พื้น
มองดูท่าทีของเจ้าแมวสีดำ ดวงตาสีเหลืองอำพันนั่นดูเย็นเยียบ และนิ่งเฉย
มันนั่งมองเขานิ่งๆไม่ยอมขยับ เมื่อไม่เห็นท่าทีจู่โจมจึงเตรียมตัวจะลุกขึ้น
แต่เมื่อเขาขยับตัว ดวงตาคู่นั้นก็มองตามทุกอิริยาบถของเขา
อู๋เสียลุกยืน
เจ้าแมวนั่นก็ลุกยืน
‘จะกวนบาทากันหรือเจ้านี่’
เขาคิดในใจ
คิดว่าจะกลั้นใจหลับหูหลับตาจะเดินผ่านมันไปให้มันรู้แล้วรู้รอด จะกลัวอะไรล่ะ
นี่มันแค่แมวเองไม่ใช่หรือ
ถึงจะดูตัวใหญ่กว่าแมวปกติ
และดวงตาแปลกๆที่จ้องมองมานั่นก็เถอะ
“ม๊าว...”
แต่ยังไม่ทันจะก้าวขา
เสียงร้องต่ำๆก็ดังขึ้นเสียก่อน
“เอ่อ....นี่
ฉันแค่จะเดินไป...ทางนั้นน่ะ ฉันไม่ทำอะไรหรอก หลีกทางฉันเถอะ” อู๋เสียชี้มือไปข้างหน้าที่ตอนนี้มืดสนิท
เขาคิดว่าตัวเองคงบ้าไปแล้วที่ไปคุยกับเจ้าแมว มันจะรู้เรื่องได้อย่างไร
“ม๊าว....ม๊าว”
นั่นปะไร
แน่นอนว่ามันไม่เข้าใจ แถมยังสาวเท้าเข้ามาหาเขาอีก
เหมือนว่าอาการกลัวแมวของอู๋เสียจะเพิ่งกำเริบ
หัวใจเต้นตึกตึก พลางคิดในใจว่าถ้าวิ่งฝ่าออกไปจะโดนข่วนจนได้แผลอีกก็คงต้องยอม
ดีกว่ามาตกอยู่ในสถานที่แบบนี้เวลานี้ไม่ใช่หรือ อย่างน้อยก็คงแค่โดนอารองด่า
เอาวะ...
เมื่อให้กำลังใจตัวเองเสร็จ
ก็ยืนประจันหน้ากับเจ้าแมว
“ม๊าว....ม๊าว....”
เสียงร้องของมันต่ำลงอีก
ขนที่หางและลำตัวกำลังตั้งฟูเหมือนขู่ศัตรู
และมันกำลังเดินต้อนอู๋เสียให้ถอยหลังอีกแล้ว
อดคิดในใจไม่ได้ว่าเหมือนมันจะรู้ว่าเขาคิดอะไรในใจอยู่
จึงเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้
เจ้านี่ต้องการอะไรจากเขาหรือ
รู้สึกถอยจนหลังชนกำแพงเข้าเสียแล้ว
ในขณะที่กำลังตื่นตระหนกกับเสียงขู่ฟ่อ
ก็ได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากถนนที่ซ่อนอยู่ในความมืด
อู๋เสียมองตามเสียงไปเมื่อหันกลับมาก็ตกใจจนอ้าปากหวอ
“.....ไม่ทันแล้ว”
“นะ...นี่มัน....เฮ้ย!....อุบ”
สถานการณ์ตรงหน้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
อู๋เสียถูกรวบเอวดึงตัวเข้ามาในช่องว่างของกำแพงข้างถังขยะ
ปากถูกปิดด้วยมือหนาใหญ่ของ.... ของเจ้าแมว! แรงรัดที่เอวและแรงกดของฝ่ามือที่ปิดปากเขาอยู่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยเมื่อเขาเริ่มดิ้น
“เงียบ...อย่าดิ้น”
เขาพูดเบาๆข้างที่ข้างหู
สถานการณ์ตรงหน้ามีปัญหา
กลุ่มคนไม่ต่ำกว่าสิบที่มีอาวุธครบมือกำลังผ่านมาทางนี้
เสียงเอะอะนั่นจับใจความได้ว่ากำลังตามหาเด็กส่งของที่ทำงานพลาด และเขาหนีมาทางนี้
พวกเขาวนอยู่แถวนั้นยังไม่ยอมไปไหน
ใครสักคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกำลังโทรออก
หลังจากนั้นก็โวยวายเป็นภาษาอื่นที่เขาไม่เข้าใจ
ดูเหมือนว่าจุดที่อู๋เสียกับใครบางคนอยู่จะมืดมากพอ
จึงทำให้พวกนั้นมองผ่านไป
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ อู๋เสียรู้สึกได้ถึงการคลายแรงของฝ่ามือที่ปิดริมฝีปากเขาอยู่
มั่นใจแน่แล้วว่าเขาเป็นผู้ชาย แถมยังสูงกว่าตัวเองอีกนิดหน่อย
อู๋เสียไม่กล้าหันหน้ากลับไป
เพราะตัวเองกันเจ้าคนด้านหลังยืนชิดกันชนิดที่แผ่นหลังกับแผ่นอกชิดกัน
พลันภาพเมื่อครู่ตอนที่เห็นเจ้าแมวกลายร่างก็เข้ามาในหัวอีกครั้ง
แต่.....แต่ว่านี่มันเป็นไปได้หรือ....
“แมว”
เขาพูดขึ้นข้างหูจนอู๋เสียสะดุ้ง
ลมหายใจของเขารดอยู่แถวหัวไหล่และหลังคอ ขนพลันลุกซู่จนรู้สึกวูบวาบ
นี่เขาได้ยินเสียงของฉันหรือ อู๋เสียคิดในใจ
ก่อนเสียงเบาๆจะกระซิบตอบที่ข้างหู
“ใช่”
อู๋เสียสะดุ้งอีกรอบ
งั้นตอนอยู่ในร่างแมวนั่นก็คงได้ยินตอนที่เขาคิดจะหนีไปสินะ
เรื่องราวถึงกลายมาเป็นอย่างนี้ได้
และเมื่อคิดว่าคงเป็นเรื่องจริง
การสื่อสารระหว่างคนสองคนจึงเกิดขึ้น
‘นาย....เป็นแมวจริงๆหรือ
เมื่อครู่นี่...จริงๆหรือ?’
ถึงจะคุยกันบบแปลกๆก็เถอะ....
แต่ว่าไอ้มนุษย์แมวนี่มันได้ยินเสียงเขาจริงๆด้วย
“ฉันยังพูดมากไม่ได้
มนุษย์แมว?”
‘เอ่อ...’
การสื่อสารของพวกเขาทั้งสอง
ยุติลงด้วยเสียงเคลื่อนไหวจากกลุ่มคนข้างนอก พวกเขากำลังออกไปจากถนนซอยนี้
“พวกนั้นไปแล้ว
ปล่อยฉะ....อื้อ”
อู๋เสียกำลังจะบอกให้คนด้านหลังปล่อยเขา
แต่ทว่ามือใหญ่นั่นจับตัวเขาให้หันหน้าเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่ใบหน้าของเขาจะโน้มลงมาปิดริมฝีปากของอู๋เสีย เขายืนนิ่งด้วยความตกใจ
สัมผัสเคล้าคลึงที่ริมฝีปากทำให้อู๋เสียรู้สึกตัว
เผลออ้าปากเพื่อจะด่าคนตรงหน้าแต่ก็ดันเป็นการเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างง่ายดายเสียอย่างนั้น
ลิ้นอุ่นร้อนฉกวูบไปทั่วโพรงปาก
อู๋เสียรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ
กำหมัดแน่นๆทุบหนักที่แผ่นหลังที่ดูเหมือนไม่กระเตื้องแม้แต่น้อย
จดแล้วจนรอดก็ปล่อยให้เขาละเลียดจูบจนพอใจ จนผละริมฝีปากออกไปเอง
“แฮ่ก...อื้อ..เชี่ย!...ไอ้..”
เขาหอบแฮ่ก ใบหน้าแดงจัด
ไม่รู้โกรธหรือจะอายดี มาจูบกันทั้งที่เพิ่งเคยเจอแถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันอีก
“มันเป็นพันธนาการ”
มือใหญ่ของมนุษย์แมวดันไหล่อู๋เสียเบาๆให้เดินออกไปจากตรงที่ที่พวกเขาซ่อนอยู่
อู๋เสียที่ยังงุ่นง่านด้วยความงุนงงและขุ่นเคืองถูกจูงก็เดินตามออกมาอย่างง่ายดาย
เมื่อมาถึงตรงที่ที่มีบริเวณแสงมากพอ
อู๋เสียจึงเห็นลักษณะของคนตรงหน้าได้ชัดเจน
ดวงตาตาสีเหลืองอำพันนั่นเหมือนแมวไม่มีผิด
มันเรียบเฉยยิ่งกว่าตอนเป็นแมวเสียอีก เรือนผมสีดำสนิทที่ยาวระต้นคอ เขามีใบหน้าที่ดูดีเกิดมนุษย์
ไม่ว่าจะไปคิ้ว ปาก ดูเข้ารูปไปหมด ไม่ได้มีหูหรือหางงอกออกมาแบบที่เขาคิดไว้
โดยรวมแล้วเขาก็เหมือนมนุษย์ทุกอย่าง
“เมื่อใดที่มนุษย์เห็น
ฉันจะพันธนาการพวกเขาไว้ด้วยการจูบ....”
“จูบของฉันจะทำให้นายกลายเป็นแมว
ถ้าเรื่องนี้หลุดออกจากปากของนายไปถึงคนอื่น ถ้านายทำ ฉันจะรู้”
อู๋เสียเลิกคิ้ว จูบรึ? แล้วเขาจูบมากี่คนแล้วล่ะ?
เขายังอายอยู่เรื่องเมื่อครู่จึงไม่กล้ามองหน้าอีกคนตรงๆ
คิดอะไรแปลกๆในใจจนเผลอเอามือจับปากตัวเอง
แต่เขาก็ยอมพยักหน้า
“งั้นฉันคงต้องกลับ
เรื่องวันนี้.... ขอบใจมาก” ก่อนที่อู๋เสียจะกันหลังกลับไป
คำพูดที่กระตุกจังหวะหัวใจก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“นายเป็นคนแรกที่เห็นฉันในร่างนี้”
“...”
“กลับบ้านดีดีล่ะ”
แล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาจนอู๋เสียแทบผงะ
“ฉันจูบเก่งใช่ไหมล่ะ”
--------------------------------------------------
------------------- -
เป็นเหตุการ์ต่อจาก
อู๋เสียกับอารอง ค่ะ
ก็เหมือนจะใจง่ายไปหน่อยไหมอู๋เสีย
เอ็งเพิ่งเจอเขาครั้งแรกไม่ใช่รึ //โดนเอาสมุดฟาดหัว
สุดท้ายฮะ งงกับสรรพนามหมายยยยยยยย
(เคยเอาลงที่บอร์ดเต้ามู่ค่ะ
เลยมาทำบล็อกดีดีเก็บฟิคไว้ ถ้าอ่านในนั้นแล้วมาอ่านที่นี่อาจต่างกันนิดหน่อยเพราะeditเนื้อหานิดนึงค่ะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น