11 กันยายน 2558

[OS] งอน (จางฉี่ซานxอู๋เหลาโก่ว) [NC-15]


มือกระชับกระเป๋าข้างตัว ขายาวก้าวเร็วๆอยู่ภายในตรอกแห่งนี้เพื่อที่จะได้ออกไปให้ไว แต่ก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นใครบางคนที่คุ้นเคยหลบๆซ่อนๆอยู่มุมเสาหลักถนน


หมาห้า เจ้ามาทำอะไรแถวนี้นะ
ลองเดินตามไปหน่อยก็แล้วกัน  อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปไหน และทำอะไร



-อีกด้านหนึ่ง-


รู้สึกเหมือนมีคนตามมา....


ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่ได้คิดไปเองแน่นอน… แต่หันหลังกลับไปก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากความมืดที่รายล้อมรอบตัวลงมาเรื่อยๆ จะใครก็ช่างเถิด จะลองดีกับฉันหรือ? อู๋เหลาโก่วหลบเข้าซอกแคบๆถนนอย่างรวดเร็ว คิดเอาไว้ว่าถ้าไอ้คนที่เดินตามเขามามาถึงนี่มันจะต้องกลับบ้านไปไม่ครบ32


ตึก  ตึก  ตึก


เสียงรองเท้าดังก้องไปทั่วทางเดิน เสียงนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงเมื่อเลยซอกที่อู๋เหลาโก่วยืนอยู่ไปนิดหน่อย อีกคนที่ไม่มองให้ดีเสียก่อนและไม่นึกเอะใจ พุ่งตัวออกไปหวังล็อกคอแล้วจับเขาทุ่มที่พื้น


ฟุ่บ  พรึ่บ!


อะ...โอ๊ยแต่ดูเหมือนความเร็วที่ใช้จะยังไม่พอ แขนยังไม่ทันจะถึงตัวอีกคนก็โดนใครคนนั้นจับแขนพลิกกลับไปด้านหลังแล้วดึงตัวเขาไปด้านหลัง


เจ้าช้าไปนะ


ทะ...ท่าน!คนโดนจับได้ร้องเสียงหลง เมื่อรู้ว่าคนที่จับแขนตนเองอยู่คือใคร อู๋เหลาโก่วถูกพลิกตัวกลับมา แขนอีกข้างถูกปล่อยเป็นอิสระ เมื่อสบตากับเจ้าของเสียงทุ้มเท่านั้นจากใบหน้าตกใจก็เปลี่ยนเป็นง้ำงอแทน   


เจ้ามาทำอะไรที่นี่


แล้วท่านมาทำอะไร?” อู๋เหลาโก่วไม่ได้ตอบคำถาม แต่ย้อนถามกลับไปเสียงสะบัดเล็กน้อยบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์เมื่อเจอคนที่ไม่อยากเจอเข้า


“....” เมื่อเห็นกิริยาของคนตรงหน้า มุมปากกลับมีรอยยิ้มเล็กๆประดับอยู่ ปากแดงๆนั่นแทบจะคว่ำอยู่แล้ว


ยิ้มอะไรของท่าน!จางฉี่ซานนึกขำอีกคนที่หน้าง้ำหน้างอ  ส่ายหน้าเบาๆพร้อมถอนหายใจ ก่อนจะคว้าเอามือนั่นมาจับแล้วออกแรงดึงให้เดินตามมา


เจ้าไม่ควรจะมาแถวนี้ในเวลาแบบนี้


ปล่อยมือข้าเลยนะ! นี่ พ่อพระ!อู๋เหลาโก่วแหวใส่อีกคนที่เดินกึ่งลากกึ่งจูงเขาไป ทั้งดิ้นทั้งพยายามดึงมือออกแต่ดูเหมือนว่าคนที่เหนื่อยจะมีแต่ตัวเอง


จนสุดท้ายก็ต้องเดินตามคนตัวสูงในเครื่องแบบที่เดินนำอยู่ตรงหน้าเขา



---------------------------------------


ซันชุ่นติง! ถ้าเจ้าหนีข้าอีกวันหลังข้าจะไม่ใจดีกับเจ้าแล้วนะ


เสียงพูดปนหอบหน่อยๆที่ดังมาจากหลังบ้านตระกูลอู๋เรียกความสนใจของผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี จางฉี่ซานถอดหมวกก่อนจะวางไว้ในตัวบ้าน ร่างสูงสมส่วนในชุดเครื่องแบบเดินตามเสียงของคนและหมาไปจนถึงที่


ภาพตรงหน้าคือผู้ชายเรือนผมสีน้ำตาลกำลังกอดรัดเจ้าหมาตัวโตตรงหน้าตัวเอง มือข้างหนึ่งถือสายยาง อีกข้างหนึ่งใช้กอดรัดเจ้าตัวโตนั่นไว้ บนตัวของมันมีฟองอยู่เต็มไปหมด ได้ยินเสียงบ่นหมาตัวเองไปแต่มือนั่นก็คอยสางขนด้วยความตั้งใจไล่ฟองออกไปจากลำตัวของมัน


และดูเหมือนว่าเจ้าหมาตัวโตนั่นจะรู้ว่าตัวของมันสะอาดแล้ว มันดิ้นจากอ้อมแขนของเจ้าของ สะบัดจนน้ำกระเด็นเซ็นซ่านไปทั่วบริเวณนั้น ส่งผลให้เจ้าของมันยอมปล่อยเสียโดยดี มือยกขึ้นป้องใบหน้าจากละอองน้ำก่อนจะแหวเสียงดังตามหลังเจ้าหมานั่นไป ขางฉี่ซานยิ้มมุมปากอย่างขัน ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจะยังไม่รู้ตัวว่ามีแขกมาเยือนที่บ้าน


ไม่อยากมาหาน้ำให้ข้ากินหน่อยหรือ


ใบหน้านั่นหันขวับมาทางเขาอย่างรวดเร็ว ก่อนร่างคนตรงหน้าจะเดินเร็วๆเข้ามา เขาสวมกางเกงขายาว ขากางเกงถูกพับขึ้นไปเล็กน้อย กับเสื้อกล้ามสีเดียวกันกับสีผม ที่ตอนนี้มันเปียกลู่ไปจนแนบกับลำตัวของเจ้าตัว


พ่อพระ! ท่านมาทำอะไรที่บ้านข้า!จางฉี่ซานละสายตาออกจากร่างตรงหน้า พลางคิดในใจว่ามันน่านักที่ปล่อยตัวเองให้เปียกเช่นนี้


เข้าไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อน


ไม่ไป ท่านมาทำอะไร? งานการท่านไม่มีทำหรืออย่างไร  ทีเมื่อก่อนเห็นไม่ค่อยว่างอู๋เหลาโก่วแหวใส่คนที่หน้านิ่งที่ยืนตรงหน้าอย่างไม่เกรง  เขารู้ดีว่าคนคนนี้ไม่สะทกสะท้านอะไรหรอก


ถ้าเจ้าไม่ไปข้าจะพาเจ้าไปเปลี่ยนเอง จะเอาแบบนั้นไหมเสียงนิ่งๆเอ่ยขึ้นมาอย่าไม่สะทกสะท้าน แต่กลับทำให้คนหน้างอสะดุ้งหน้าแดงเรื่อหลบสายตาอีกคนในทันที


ไอ้คนบ้า!จางฉี่ซานมองตามคนที่ตั้งใจเดินเบียดเขาเข้าบ้านไปเร็วๆ ส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินไปนั่งรอที่ห้องรับแขก ก่อนจะมีคนเอาน้ำมารินให้ พลางคิดไปถึงคนด้านบนที่ยังคงไม่หายโกรธเคืองเขาสักที


ช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมางานเขาหนักเหลือเกิน ไม่มีเวลาแม้แต่จะพูดคุยกับใครทั้งนั้น แม้แต่กับคนรัก นอกจากไม่มีเวลาแล้วยังต้องออกราชการไปนอกเมือง ไปที่อื่น จึงหาโอกาสพบหน้าใครไม่ได้เลย จนย่ำค่ำวันนั้น ถ้าเขาไม่บอกให้ลูกน้องกลับไปรอที่รถและเขาจะตามไปทีหลัง เขาจะไม่มีวันได้พบกับเหตุการณ์เช่นนั้นเลย


ที่เขาเจอหมาห้าวันนั้นก็เพราะว่าเจ้าตัวแอบตามไปดู อู๋เหลาโก่วคงรู้ว่าเขาจะกลับวันนี้ จึงมาด้วยตนเอง ไม่พกมาด้วยแม้แต่ซันชุ่นติงที่เจ้าตัวมักจะเอาไปด้วยไม่ว่าจะไปที่ใดก็ตาม


แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ง่าย เมื่อคนรักโกรธเคืองถึงกับไม่ยอมพูดคุยด้วยหลังจากวันนั้น จึงต้องมาเองถึงที่นี่ และตอนนี้เขาก็รอนานจนเกินไปแล้ว พยักหน้าให้คนใช้ในบ้านว่าไม่ต้องไปตาม เดี๋ยวเขาขึ้นไปเอง


เสียงเคาะประตูห้องเรียกสติของคนที่นั่งอยู่บนเตียง


บอกเขากลับไปเลย! บอกว่าข้าไม่ว่าง นอนหลับไปแล้วหรืออะไรก็ได้


อู๋เหลาโก่วตะโกนออกไปให้คนด้านนอกได้ยิน แต่เสียงเคาะของประตูก็ยังดังขึ้นอีก พูดไม่รู้เรื่องหรือเจ้าพวกนี้
ข้าบอกแล้วไงว่า… พ่อพระ!...อะ...ออกไปเลยนะ!


เมื่อเปิดประตูออกไปกะจะเอ็ดคนใช้เสียหน่อย แต่คนที่เคาะไม่ใช่คนในบ้าน จะปิดประตูก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อมือใหญ่คว้าหมับก่อนจะดันแล้วแทรกตัวเข้ามา ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องด้วย แขนแข็งแรงคว้าหมับที่ข้อมืออีกคนก่อนจะดึงเข้ามาหาตัว


ท่าน!...ปล่อยข้า! ข้าไม่อยากพบหน้าท่าน….อื้อ..คางถูกจับให้เงยหน้าขึ้นก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะทาบทับลงมา เอวถูกดึงรั้งเข้าไปใกล้อีก มือใหญ่ข้างหนึ่งจับใบหน้าอีกคนไว้ก่อนลิ้นร้อนจะสอดพรวดเข้าในโพรงปากหวาน รู้สึกได้ถึงกำปั้นทุบหนักๆที่ไหล่ทั้งสองข้าง จางฉี่ซานเอียงหน้าไปอีกด้านมือเลื่อนลงไปโอบเอวคนในอ้อมกอดไว้แน่น กวาดลิ้นไปทั่วจนอีกคนอ้าปากยอมให้ตนเองรุกรานได้ตามใจชอบ มือที่ทุบเปลี่ยนมาจับก่อนจะขย้ำดึง


จางฉี่ซานค่อยๆละริมปากออก สบดวงตาสั่นไหวของคนตรงหน้า ริมฝีปากที่ยังคลอเคลียไล่กดจูบเบาๆที่ริมฝีปาก
แดงจัด ก่อนจะเลื่อนมาที่มุมปากไล่ลงที่สัมผัสที่คอขาวแผ่วเบา คนตรงหน้าก็เอียงคอให้น้อยๆอย่างง่ายดาย


ทะ...ท่าน...อึ๊...มือเลื่อนมาที่ไหล่หนาที่ยังอยู่ในเครื่องแบบจางฉี่ซานละใบหน้าออกมาจากซอกคอนั่นอย่างนึกเสียดายเล็กน้อย เขาลุกขึ้นก่อนจะจับจูงมืออีกคนให้เดินตาม


เก็บของใช้ส่วนตัวของเจ้า วันนี้ไปค้างกับข้า


ไม่เอา….อู๋เหลาโก่วเม้มปากหน้าแดงแจ๋ ดึงข้อมือออกจากมือใหญ่ถ้าข้าไปไม่มีใครดูแลหมา...


ถ้าเจ้าไม่ไป


“....”


งั้นคืนนี้ข้าจะค้างที่นี่แทน



…….........................................................



แฮ่ก….อือ...อื๊อ...พะ...พอแล้วอู๋เหลาโก่ววาดแขนกอดคออีกคนแน่น ใบหน้าหงายเชิดครางเสียงสะอื้นเมื่ออีกคนกระแทกกระทั้นเข้ามาอีก มือใหญ่บีบเค้นสะโพกที่นั่งอยู่บนตักของตนเอง เขาตบสะโพกโจนจ้วงเข้าออกช่องทางแดงช้ำนั่นรัวก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปด้านในทุกหยาดหยด รั้งใบหน้าชื้นเหงื่อให้ก้มลงมารับจูบ ก่อนจะผละริมฝีปากออก ถอดกายออกจากตัวอีกคนกอดจะวาดแขนรั้งตัวเข้ามากอดแนบอก ริมฝีปากกดจูบหนักๆที่ขมับอีกคนอย่างหวงแหน


หายโกรธข้าหรือยัง


เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ มือใหญาก็จับคางคนในอ้อมอกให้เงยหน้าสบตา แต่ดูเหมือนว่าจะเขาคิดผิดเสียแล้ว สายตาหวานฉ่ำที่มองสบตากลับมา ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน แก้มขาวทั้งสองข้างตรงหน้าขึ้นริ้วแดงไปหมด ก่อนกำปั้นหนักๆจะทุบลงบนอก
ข้ายอมขนาดนี้ ท่านยังไม่รู้อีกรึไง...


ปลายนิ้วยกขึ้นแตะแก้มอีกคนแผ่วเบาก่อนริมฝีปากอุ่นร้อนจะก้มลงมาจูบหน้าผาก หมาน้อยตัวนี้ทำให้เขาใจเต้นผิดจังหวะอีกแล้ว ดึงตัวอีกคนออกก่อนจะล้มตัวลงนอนไม่ลืมที่จะคว้าร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าเข้ามากอดไว้แนบอกอย่าโกรธเคืองข้านักเลย...


ข้าออกไปทำงาน ใช่ว่าจะไม่คิดถึงเจ้าเสียเมื่อไหร่ อยากกลับมาหาใจแทบขาดแต่ภาระหน้าที่ที่ละทิ้งมิได้ก็สำคัญเช่นกัน เจ้ารู้ดีไม่ใช่หรือรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดขยับตัวเข้ามาหาอีก


นอนเถิด คืนนี้ข้าจะไม่กวนเจ้าแล้วประโยคกำกวมนั่นทำให้คนในอ้อมกอดมุดใบหน้าแดงซ่านเข้าที่อกแข็งแรงตรงหน้า ก่อนที่อู๋เหล่าโก่วจะสัมผัสได้ถึงแผ่นอกแข็งแรงที่กระเพื่อมตามแรงหายใจคงที่ เขาคงหลับไปแล้ว


ร่างเปลือยเปล่าขยับลุกขึ้นมาเล็กน้อย ช่วงสะโพกรู้สึกขัดไปหมด ปลายนิ้วลูบไปตามโครงหน้าหล่อเหลาของคนรัก

ข้ารักท่านนะ

อู๋เหลาโก่วโน้มหน้าลงไปจูบหน้าผากของอีกฝ่ายแผ่วเบาก่อนจะซุกตัวเข้าหาแผ่นอกแข็งแรงเหมือนเดิม ก่อนเขาจะหลับตามไปอีกคน



----------------------------------------------------------

Talkค่ะ //ซับเลือดผสมกาวออกจากจมูก
เขียนแบบไม่รู้ช่วงเวลา คำพูด สถานการณ์เชื่อกันมากมั้ย ไม่ได้เช็คเลยค่ะ
รุ่นปู่นี่มันดีจริมๆ..... 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น