“นายอ้วน นั่นอะไร”
ผมชี้มือไปทางโต๊ะไม้หน้าร้านที่มีวัตถุสีน้ำตาลวางใส่ห่อผ้าสีขาวและใส่ตระกร้าไว้อีกที
“อ้อ ถังเช่าไง”
นายอ้วนตอบแต่ก็ยังก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้า
เขาลงมาหาผมที่หังโจวเห็นว่าว่ามีธุระสำคัญที่นี่จึงเลยมาหาผมเลยด้วย
“นายเอามันมาทำอะไรหรือ?” ผมขมวดคิ้วมองเขา
ถังเช่าเป็นสมุนไพรเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
หรือจะเรียกว่ายากระตุ้นอารมณ์ของคนสมัยก่อนก็ได้ ผมเคยอ่านเจอในบันทึกคุณปู่ช่วงหนึ่ง
เขาแค่บอกว่าติดถังเช่าไปด้วยตอนลงกรวย แต่ไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอะไร
เขาเขียนสรรพคุณและวิธีใช้มันอย่างละเอียดภายในบันทึก
ซึ่งตอนนั้นเขาไปกับคณะของพ่อพระจาง
“อ๋อ ฉันได้มาจากผู้เฒ่าที่ค้าขายด้วยกัน
เขาบอกว่าใส่ลงไปในยาดองเหล้าแล้วจะดี นายอยากลองไหมล่ะเทียนเจิน”
นายอ้วนมองผมตาวิบวับ
“ไม่เอา”
“โถ่ นายแม่งไม่ใจเลย ฉันอุตส่าห์ได้ของดีมาทั้งที” นายอ้วนว่าผมก่อนที่เขาจะบ่นพึมพำว่าเอาไปใช้เองก็ได้
เผื่อหยุนไฉ่จะติดใจในลีลาของเขาบ้าง
“แล้วนายจะกลับเมื่อไหร่ ถ้าจะค้างฉันจะได้ให้คนที่บ้านเตรียมห้องไว้ให้”
“ไม่ค้าง เดี๋ยวฉันกินข้าวปลาเสร็จแล้วอยู่คุยกับนายสักพักก็ว่าจะกลับเลย
แล้วนี่น้องเสี่ยวเกอไปไหนล่ะ”
ผมทำหน้าเบื่อใส่นายอ้วน
ไม่ได้ตอบคำถามเขา ก่อนจะเดินหนีมาที่หลังร้าน
-------------------------------------------------
“นายจะไม่ให้ฉันไปส่งแน่หรือ” ผมคุยกับนายอ้วนอยู่หน้าร้าน
ผมอาสาจะไปส่งเขาแต่เขาบอกว่าจะนั่งรถกลับไปเอง
“แน่สิ นายคิดว่าฉันจะหลงทางหรือไง” นายอ้วนด่ามาทีหนึ่ง
“ฉันมาหานายตั้งหลายครั้งนับไม่ถ้วน เดี๋ยวก็คงได้มาอีก ฉันไปล่ะ
ไว้ว่างๆนายก็แวะไปหาฉันที่ร้านบ้างแล้วกัน”
นายอ้วนว่าพลางเดินออกไป
ผมกลับเข้ามาในร้านพลางจัดของให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะปิดร้าน
เหลือบไปเห็นห่อผ้าสีขาวที่วางอยู่บนหลังตู้ที่อาสามเอามาไว้เมื่อราวอาทิตย์ก่อน
มันคือไม้หอมเช่นกัน แต่อันนี้เป็นแก่นของไม้ที่ใช้ดองเหล้าของจริง
มันมีชื่อแต่ผมจำไม่ได้แล้ว ไว้เจออาสามผมจะถามเขาอีกที
ผมเดินไปหยิบมาไว้ปิดร้านแล้วกลับบ้าน พาลนึกถึงหน้าเมินโหยวผิงแล้วหงุดหงิดขึ้นมา
เขาไปไหนไม่ค่อยบอกผม ครั้งนี้ก็เช่นกัน
เมื่อกลับถึงบ้าน
ก็เจอเขายืนหน้ามึนส่งมาให้อยู่แถวในครัว ผมไม่สนใจเขา
ตั้งใจจะเดินผ่านเขาไปที่ตู้เย็นเอาน้ำมาดื่ม
แต่กลับโดนคนที่ยืนหน้านิ่งกอดหมับเข้าที่เอวแล้วถูกดึงไปกอด
“ไม่พอใจฉันอีกแล้วหรือ....” เขาพูดข้างหูผมเสียงเบา
ผมถองศอกใส่เขาที่ตั้งใจไม่หลบแล้วหันหน้ากลับไปหา ด่าเขาไปทีหนึ่ง
“เออ! นายใช้คำว่าอีกแล้วได้ยังไง ชอบหายไปแบบเงียบๆฉันจะไปรู้หรือไง!
นายแม่ง...จะทำให้ฉันเป็นห่วงไปถึงไหน!”
“....”
เขานิ่งเงียบ ผมถอนหายใจเฮือกหนึ่งเพราะใช้แรงตะโกนมากไปหน่อย
ยกมือเสยผมออกด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินหลบเขาไปเอาน้ำที่ตู้เย็น
เทใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มหวังให้อารมณ์ขุ่นมัวจางหายไปบ้าง
“นาย....อะ...อื้อ..”
เมื่อหันกลับไปก็ถูกเขาจับเข้าไปจูบแรงๆทีหนึ่ง
ริมฝีปากร้อนจัดของเขาบดเบียดริมฝีปากของผมพร้อมๆกับแทรกสอดลิ้นเข้ามาเคล้าคลึงกับลิ้นของผม
ตั้งใจจะดันเขาออกแต่ก็สู้แรงเขาไม่ไหว เขากอดเอวผมไว้ก้มหน้าจูบเอาๆ
จนผมรู้สึกเจ็บปาก จูบจาบจ้วงเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานและงอนง้อ
ก่อนที่เขาจะค่อยๆผละริมฝีปากออกไป ปลายนิ้วสากไล้เบาๆที่ข้างแก้มผม
ก่อนที่เราจะสบตากันเงียบๆ
"ฉันกลับมาหานายทุกครั้งไม่ใช่หรือ อู๋เสีย"
หลังจากนั้นเขาก็จูบผมอีกทีหนึ่ง
คราวนี้ผมด่าเขา บอกว่าถ้าผมหายไปบ้างจะเป็นอย่างไร เขาตอบกลับมาแบบน่าโมโหว่า
'สุดท้ายยังไงฉันก็จะตามหานายให้เจอจนได้ ไม่ว่านายจะหายไปที่แบบไหนก็ตาม'
ผมไม่คุยกับเขาอีก
พลางคิดว่าเขามันเพ้อเจ้อ
นี่ถ้าไม่ติดว่าเมินโหยวผิงเข้าไปอยู่หลังประตูสำริดเป็นเวลา10ปี ผมจะคิดว่าเขาดูละครมากไปหน่อย
----------------------------------
------
“นี่ ขวดสีเขียวบนชั้นนั่นยาสระผมนะ”
ผมตะโกนบอกเมินโหยวผิงที่กำลังอาบน้ำอยู่
ผมเพิ่งซื้อมาใหม่เกรงว่าเขาจะเอาไปถูตัวเหมือนคราวนั้นอีก
ขณะรอเขาอาบน้ำก็จุดบุหรี่ออกไปสูบหน้าระเบียง
สักครู่เขาก็เดินออกมาน้ำหยดแหมะๆบนพื้น ผมวางบุหรี่ที่ยังไม่ดับสนิทไว้กับที่ดับในห้องพลางเดินผ่านเขาไปห้องน้ำ
"หือ กลิ่นอะไร”
เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็ได้กลิ่นแปลกประหลาด
บอกไม่ถูกว่าคล้ายกับอะไรแต่กลิ่นนั่นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
เริ่มครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมานิดหน่อย
“เมินโหยวผิง นายได้กลิ่น...อะ...อื๊ออ”
ผมเรียกเมินโหยวผิง
เดินไปหาเขาที่นั่งอยู่ที่เตียง กำลังจะถามเขา
แต่เมื่อเขาเห็นผมตัวเองก็ถูกดึงเข้าไปประกบปากรุนแรง
เขาทั้งดูดทั้งกัดก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปในปากผมเกี่ยวลิ้นผมไปดูดแรงๆจนได้ยินเสียง
ผมจับไหล่เขาทั้งผลักทั้งดันและตกใจที่อยู่ๆเขาก็พุ่งเข้ามา
มือเขาปลดปมชุดคลุมผมออกก่อนจะสอดเข้ามาบีบเค้นสะโพกอย่างแรง ผมสะดุ้งสุดตัว
เมื่อต้านแรงเขาไม่ไหวจึงยอมอ้าปากให้เขาจูบแต่โดยดี
รู้สึกว่าร่างกายตัวเองก็ร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มีอารมณ์ร่วมไปกับเขาเช่นกัน
"อะ!...แฮ่ก...เมินโหยว..ผิง หยุด...หยุดก่อน...อึ๊.." เขาผละริมฝีปากออกไปก่อนจะทาบลงมาอีกครั้งที่ต้นคอ มือป้ายปาดเสื้อคลุมให้หลุดจากไหล่ผม
ก่อนจะก้มจูบไล่ดูดเม้มจนเป็นรอยเต็มไปหมด
เขาดึงผมไปที่เตียงก่อนจะจับกดให้นอนหงายแล้วเขาก็ตามมาคร่อม
ผมรู้สึกว่าเขามีอารมณ์มากมายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ปกติเขาเป็นคนแข็งแรงอยู่แล้ว
เวลาเขาทำกับผมเขาจะไม่ค่อยรุนแรง แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้
"....ร้อน" เขาพูดเสียงพร่าขณะไล่จูบไปตามซอกคอผม
ช่วงล่างของเขามันกำลังขยายจนรู้สึกได้ ผมนอนแผ่หงายอยู่บนที่นอน
ชุดคลุมหลุดรุ่ยแทบจะหลุดไปหมดแล้ว
ครางอื้ออึงเมื่อเขาก้มกัดยอดอกสลับบดขยี้ด้วยมือของเขาทั้งสอบข้าง สองขาแหวกอ้าปล่อยอีกคนสอดแทรกเข้ามาตรงกลางเบียดช่วงล่างใส่กันผ่านเนื้อผ้า
"อื้อ...เมินโหยวผิง...อา...อะ! เบา...เบาหน่อย...อื๊ออ!"
สองขาถูกจับพาดไหล่แข็งแรง
ก่อนที่เขาจะสอดมันเข้ามาจนสุดแล้วเริ่มขยับกระแทกกระทั้นเข้ามาจนผมร้องแทบขาดใจ
ทั้งคืนผมแทบไม่ได้นอนจำไม่ได้ว่าโดนเขาจับทำไปกี่รอบ
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาดูนาฬิกาพบว่า
โมงเช้าแล้ว
ขยับตัวจะลุกขึ้นก็โดนคนที่นอนซ้อนอยู่ด้านหลังรั้งเข้าไปกกกอดอีก
ผมบอกเขาว่าขอโทรไปบอกหวังเหมิงให้เปิดร้านก่อนบ่ายๆผมจะเข้าไป
เขาจึงยอมปล่อยผมให้ลุกออกไป
กว่าจะพยุงตัวเองมาถึงโทรศัพท์ก็แทบจะตายเสียให้ได้
เจ็บขัดไปหมดทั้งสะโพกทั้งตัว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบมิสคอลเกือบ
กว่าสายมาจากนายอ้วน
ผมเริ่มเอะใจ ไล่กดมิสคอลเขาทิ้งแล้วก็เจอข้อความสองฉบับที่ส่งมาหลังจากนั้น
‘อู๋เสีย! แม่งเอ้ยทำไมนายไม่รับโทศัพท์ฉันเนี่ย ถ้าเห็นแล้วโทรกลับด้วย’
‘เทียนเจิน ตกลงนายแม่งจะไม่โทรกลับมาแล้วใช่ไหม
ฉันจะบอกว่าฉันหยิบห่อยาผิดมา! นายแม่งเอาไปวางไว้ด้วยกันได้ยังไง
นายเก็บไว้ให้ฉันที ฉันว่างพอดีตอนเย็นคงถึงหังโจว’
ผมอ่านแล้วแทบปามือถือทิ้งทันที
เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ลางๆ เมื่อวานหลังจากที่กินข้าวเสร็จมื้อเย็นผมถือไอ้ห่อผ้านั่นเข้าห้องไปด้วย
จำไม่ได้ว่าวางไว้ตรงไหน แล้วตอนก่อนอาบน้ำผมก็สูบบุหรี่ทิ้งไว้
เมื่อออกมาก็ได้กลิ่นปะหลาดนี่แล้ว
ถ้าให้เดาคงไม่พ้นไอ้หมอนั่นเอาห่อผ้าไปวางไว้ที่วางบุหรี่ของผมที่มันยังไม่ดับดี
พอโดนไฟแล้วยาเลยออกฤทธิ์
สภาพผมเลยดูไม่จืดแบบนี้ไงล่ะ
งานนี้โทษใครไม่ได้
ถ้าจะโทษก็คงเป็นนายอ้วนที่เอาไอ้ยาห่านี่มาไว้ที่ร้านผมซึ่งเหมาะเจาะพอดีกับที่มียาที่เหมือนกันเป๊ะวางไว้ข้างกัน
แต่แล้วยังไงหรือ คนที่เอามันกลับบ้านก็เป็นผมอยู่ดี
เมื่อคิดจนเหนื่อยหน่ายจึงเลิก ค่อยๆเดินกลับขึ้นห้อง เมื่อเห็นห่อสีขาววางไว้ตรงที่เขี่ยบุหรี่ก็ถอนหายใจ
หยิบมันออกวางไว้แล้วล้มตัวนอนต่อ
พอบ่ายเกือบเย็นผมก็มาที่ร้าน
คราวนี้เมินโหยวผิงมาด้วย ผมถามเขาว่าทำไม
เขาไม่ได้ตอบเพียงแต่มองมาที่สะโพกผมจนต้องเดินหนีเขา
รู้สึกหน้าร้อนวูบวาบพลางคิดในใจว่าเป็นห่วงคนอื่นก็เป็นหรือ
“เจ้านาย มีคนมาพบอยู่ที่หน้าร้านครับ” หวังเหมิงเดินเข้ามาบอกผม
เมื่อเดินออกไปก็พบว่าเป็นนายอ้วน
“เทียนเจิน ฉันบอกให้....เชี่ย!” นายอ้วนตาโตก่อนเขาจะจับแขนผมดึงเข้าไปใกล้ๆเขา
"พวกนายแม่ง ดุเดือดกันขนาดนี้เลยเหรอ" นายอ้วนพูดพลางเหล่ตามองไปด้านหลังผมช
"นายเลิกพูดได้ไหม...." ผมหน้าร้อน
"เฮ้อ งานนี้ฉันคงไม่ได้ถังเช่ากลับไปสินะ แต่ไม่เป็นไร ถือว่ามาดูของดี"
เขาจงใจพูดเสียงดังขึ้นก่อนจะก้มลงมากระซิบผม "นี่อู๋เสีย ตอนเขาทำกับนายหน้าเขานิ่งเหมือนตอนปกติไหม"
"เชี่ย!!!!!" นายอ้วนพูดก่อนจะวิ่งหนีผมไปทางหลังร้าน
ผมด่าตามหลังเขาไปชุดหนึ่งหน้าร้อนฉ่าๆ
หน้าเขาก็เหมือนเดิมนั่นแหละ
แต่ดวงตาที่มองมามันเต็มไปด้วยเรื่องแบบนั้นน่ะสิ!
-End-
---------------------------------
จบเถอะค่ะ55555555555555//เขย่าหัวตัวเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น