อารองกับอู๋เสีย
“อารอง”
“...”
“อารองฮะ”
“...”
“อะ...”
“อะไรของแก
อู๋เสีย”
เด็กน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อผู้เป็นอาหันหลับมาพร้อมสายตาดุๆ
แต่น้ำเสียงยังคงปกติ
“คะ...คือ”
“มีอะไรล่ะว่ามาสิ
ฉันต้องทำงานต่อนะ”
“อารอง...ว่างมั้ยครับ?
คือว่าวันนี้เตี่ยกับม๊าไม่อยู่.....” เด็กน้อยเสียงแผ่วลง
ก้มหน้าเขี่ยนิ้วกับหลังมือตัวเอง
“อู๋เสีย”
เสียงเรียกชื่อที่ทำให้เด็กน้อยสะดุ้งอีกรอบทำให้รีบเงยหน้าขึ้นมา เบะปาก น้ำตาคลอ
“ผะ...ผมสระผมเองไม่ได้....”
“โตแล้วทำไมไม่หัดทำอะไรเอง”
อู๋เอ้อร์ไป๋วางเอกสารในมือลง
ถอดแว่นออกก่อนจะเดินไปตรงหน้าอู๋เสียก่อนจะชันเข่านั่งลงตรงหน้าหลานตัวน้อย
“โตไปเตี่ยกับม๊าแกจะไม่ไปตามสระให้ รู้ไหม” สายตานิ่งติดดุมองสบตากับเด็กน้อย
“แต่วันนี้ฉันจะทำให้ก่อน
คราวหน้าต้องทำเอง ตกลงไหม”
“จริงนะครับ?”
เด็กน้อยเปลี่ยนสีหน้าทันที ยิ้มกว้างจนแก้มขึ้นเป็นสีแดงเรื่อ
เมื่อเห็นอู๋เอ้อร์ไป๋พยักหน้าน้อยๆก็โผเข้ากอดคอผู้เป็นอาเต็มแรงด้วยความดีใจ
“....”
คนเป็นอาก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆพร้อมกับลูบผมเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู
“อารองๆ
ผมแสบตา มันไหลเข้าตาผม”
“อยู่เฉยๆก่อนได้ไหม
เอามือออกอย่าขยี้”
แค่สระผมถึงกับทำให้อู๋เอ้อร์ไป๋เหงื่อซึม
เริ่มได้ยินเสียงสะอื้นของเจ้าหลานชายเพราะเจ็บตา
เขาเปิดฝักบัวเอาน้ำล้างน้ำยาสระผมที่ไหลลงมาตามหน้าผากของเขา
พอล้างแล้วก็ไหลลงมาอีก เห็นทีถ้าให้เขานั่งอยู่แบบนั้นคงจะไหลลงมาอีกแน่
“เงยหน้าไว้ก่อนอย่าเพิ่งลืมตา”
อู๋เอ้อร์ไป๋ช้อนเอาตัวหลานชายมานั่งบนตัก
จับตัวเขาเอนผิงอกให้แหงนหน้าเล็กน้อย ก่อนที่อู๋เสียจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา
เขากระพริบตาถี่ๆจนลืมตาได้เต็มที่ทั้งสองข้าง
“อารองจะไม่เปียกหรือฮะ”
เด็กน้อยเอ่ยถามเสียงใส
“...เปียกสิ
อยู่เฉยๆจะล้างผมแล้ว ถ้าดิ้นมันจะไหลเข้าตาแกอีก” อู๋เอ้อร์พูดเสียงเรียบ
เอาฝักบัวค่อยราดล้างผมให้อู๋เสียจนหมด
อู๋อี้ฉยงที่เพิ่งกลับมาบ้านพร้อมภรรยาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อบ้านเงียบอย่างแปลกๆ
พลางมองหาลูกชายตนเอง
ในบ้านเหมือนไม่มีใครอยู่ เจ้ารองหายไปไหน
หันไปคุยกับภรรยาตนเองที่เครียดไม่แพ้กัน ขณะที่กำลังจะกดมือถือโทรหาน้องชายคนรอง
หูก็พลันได้ยินเสียงแว่วมาจากชั้นบนของบ้าน
อู๋อี้ฉยงและภรรยาเดินตามเสียงนั้นไป
เมื่อใกล้ขึ้นก็พบว่านั่นคือเสียงของอู๋เสีย เขาอยู่ในห้องน้ำและกำลังพูดเจื้อยแจ้วถามนั่นนี่ไม่หยุด
จากนั้นเสียงนิ่งๆติดดุก็ตอบกลับมา มันทั้งสั้นและห้วน
แต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกรอยยิ้มจากพี่ใหญ่ของบ้านได้เป็นอย่างดี
ก็เจ้ารองไม่เคยทำอะไรแบบนี้
คงลำบากไม่น้อยแต่ก็ยอมทำให้หลานชายตัวเอง
อู๋อี้ฉยงหันไปยิ้มน้อยๆกับภรรยาก่อนจะพากันเดินลงไปชั้นล่าง
“อารองฮะ
ถ้าคราวหน้าอารองสระผมให้อีกผมสัญญาว่าครั้งต่อไปจะสระเอง”
--------------------------------------------------
------ -
-เมินโหยวผิงกับอู๋เสีย-
“เสี่ยวเกอ นี่นายเคยสระผมบ้างรึเปล่า” ผมเหล่ตาจับผิดคนหน้าตายผ่านเลนส์แว่น
นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากถามเขาขึ้นมาในขณะที่อ่านเอกสารบนโต๊ะแล้วเบื่ออย่างบอกไม่ถูก
“...”
เขาไม่ได้คำตอบแต่จ้องหน้าผมกลับมาเงียบๆ ผมขมวดคิ้ว นั่นคำตอบของนายหรือไง
“อะไร
ฉันแค่ถามเล่นๆเอง ไหนฉันขอดมหน่อย” ว่าแล้วผมก็ลุกจากโต๊ะเดินไปเขย่งน้อยๆจะดมผมเขา
หมอนี่จะเตะผมหรือเปล่าเนี่ย...
“อะ....เชี่ย!! ปล่อยๆ ปล่อยฉันลง นายจะทำอะไรเนี่ย”
“สระ....”
เขาย่อตัวถือวิสาสะตอนที่ผมเขย่งตัวอุ้มผมขึ้นพาดบ่าแล้วออกเดิน
“นายพูดอะไรนะ?”
“สระให้ฉันหน่อย”
เขาเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้ววางผมลง ก่อนที่เขาจะถอดเสื้อออกแล้วยืนมึนๆแบบนั้นอยู่ตรงหน้าผม
ผมหรี่ตามองเขา นี่มันบังคับกันชัดๆ ฉันแค่ถามนายเล่นๆเองนะ
เขาไม่ปล่อยโอกาสให้ผมได้ตัดสินใจ
ฝักบัวถูกเปิดแล้วน้ำก็สาดลงมาเต็มที่.... หมอนี่แม่ง! แบบนี้ผมก็เปียกไปด้วยน่ะสิ!
“เมินโหยวผิง! นายเปิดน้ำแบบนี้ได้ไง อย่างน้อยถ้านายจะให้ฉันสระก็ให้ฉันถอดเสื้อก่อนสิวะ
เปิดมาแบบนี้ฉันก็เปียกน่ะสิ!” ผมด่าเขาที่ดูเหมือนไม่ได้ยินเสียงผมเลย
มึนอะไรอย่างนี้ ผมหงุดหงิดผลักไหล่เขาให้พ้นทาง แต่เขาขืนตัวไว้ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ
“อะไรนาย
หลีกไปฉันจะถอดเสื้อ” เขายอมหลบแต่โดยดี ผมเอื้อมมือไปเบาน้ำฝักบัว
ขณะนี้ทั้งผมและเมินโหยวผิงเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า
ผมถอดเสื้อออกพาดราวไว้ก่อนจะพับขากางเกงขึ้น “ทีนี้นายไปนั่งตรงนั้น ปิดฝาลงก่อน”
ผมชี้ไปที่ชักโครก เมินโหยวผิงมองตามมือไปก่อนเขาจะทำอย่างที่ผมบอกและนั่งลง
“ทีนี้นายก็อยู่เฉยๆ”
ผมเอื้อมมือไปดึงสายฝักบัวลงมา เปิดน้ำจนสุดก่อนจะเดินไปยืนด้านหลังเขา
แต่พบว่าสายฝักบัวไม่ถึง จึงต้องย้ายตัวเองมายืนตรงหน้าเขาแทน
แต่แม่ง
ไอ้ท่าล่อแหลมแบบนี้คืออะไร
ผมยืนและเขานั่งผมจึงต้องไปยืนอยู่ตรงหว่างขาเขา
ผมกลั้นหายใจพยายามไม่คิดอะไร
หน้าท้องพลันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเมินโหยวผิงที่นั่งนิ่งๆอยู่
“นายสระเองไม่ได้หรือ”
เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมนิ่งๆเช่นเคยก่อนจะส่ายหน้า ผมจนใจ
“งั้นนายต้องเงยหน้าไปด้านหลัง ไม่ต้องเงยมาก แล้วก็หลับตา”
เขาเงยหน้าขึ้นมาทำตามที่ผมบอก
ผมค่อยๆราดน้ำไปตามเส้นผมของเขา มืออีกข้างก็คอยสางให้น้ำไหลไปให้ทั่วทั้งศีรษะ
จนมันเปียกหมดจึงปิดน้ำ หันไปบีบน้ำยาสระผมใส่มือแล้วลงมือสระผมเขา
ขณะนั้นเองเมินโหยวผิงลืมตาขึ้นมา
เขามองมาที่ผมเงียบๆ
มือผมที่กำลังไล่ขยี้หัวเขาให้แชมพูกระตายไปทั่วพลันชะงักมองเขากลับไป
“มองอะไร
คราวหน้านายต้องสระเองรู้ไหม ผู้ชายเขาไม่สระผมให้กันนายไม่รู้หรือ”
เขายังคงไม่พูดอะไร จ้องหน้าผมไปเงียบๆจนผมหยุดพูด
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อจึงเปิดน้ำมาล้างผมให้เขา
ตอนที่กำลังล้างแชมพูออกให้เกือบจะหมดนั้นก็สังเกตเห็นรอยสักกิเลนของเขาค่อยๆปรากฏขึ้น
“ทำไมรอยสักนายขึ้นล่ะ?
ร้อนหรือ” ผมถามเขามือก็สางผมเขาไปด้วยจนหมด
แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบก็ต้องสะดุ้งกับสัมผัสเบาๆที่หน้าท้อง
ก่อนที่เอวจะถูกรวบเข้าไปใกล้อีก ผมตกใจจนทำอะไรให้ถูก
ยกมือจับที่ไหล่เขาก็เห็นรอยสักชัดขึ้นจนแทบจะเห็นเป็นรูปกิเลน
“มะ....เมินโหยวผิง...”
ฝักบัวหลุดออกจากมือผมทั้งที่ยังไม่ได้ปิดน้ำ
เมินโหยวผิงลุกขึ้นมาจับหน้าผมก่อนจะแนบริมฝีปากลงมาหาผม
เขาเลื่อนมือลงคว้าเอวผมเข้าไปหาอีก
ริมฝีปากฉกจูบอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกเจ็บเล็กน้อยและวาบหวาม
ลิ้นร้อนสอดพรวดเข้ามาในปากจนต้องอ้าปากปล่อยให้เขาละเลียดดูดตามใจชอบ ผมได้แต่ยืนนิ่งหลับตาปล่อยเลยตามเลย
เสียงจูบของเราดังจ๊วบจ๊าบดังจนผมรู้สึกว่ามันน่าอาย
ยกมือจับที่ไหล่ของเขาและบีบแรงๆเมื่ออากาศในปอดแทบจะไม่เหลือ
เมินโหยวผิงผละริมฝีปากออกช้าๆ
พร้อมกับมองสบตาผมระยะใกล้
เขาเอียงหน้าไล่จูบไปตามมุมปากของผมที่มีน้ำไหลออกมาจากการบดจูบของงเขาเมื่อครู่
ริมฝีปากร้อนรุ่มของเขาไล่จูบไปทั้งใบหน้าก่อนจะไล่ไปตามลำคอ
จนผมรู้สึกว่าแผ่นหลังตัวเองสัมผัสความเย็นของผนังห้องน้ำ
มือลูบไล้ไปตามรอยสักของเขาที่ชัดเต็มที่ ก่อนจะยกมือกอดรอบบคอเมินโหยวผิง
ดูท่าการสระผมให้เขาคงอีกนานกว่าจะเสร็จ
-----------------------------------------------------------------------------------------------
อารองกับอาสาม
“เจ้าสาม
ฉันบอกให้แกมานี่” อู๋ซันเสิ่งในวัย 5 ขวบใบหน้าง้ำงอนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง
มองไปทางพี่ชายคนรองที่ยืนทำหน้าอำมหิตอยู่ที่ประตูห้องน้ำ
“ไม่เอาเจ้ารอง ก็ฉันอาบน้ำมาแล้วนี่!” คนเป็นน้องแหวใส่ ก่อนจะหันหน้าหนีไปเมื่อไม่อยากสบตาดุๆนั่น
จะออกไปก็ไม่ได้โดนเตี่ยดุอีกแน่
“ฉันบอกให้แกสระผม
ทำไมไม่สระ ที่บอกว่าสระนั่นมันผ่านมากี่วันแล้ว”
อู๋เอ้อร์ไป๋พูดเสียงเย็น
น้องชายตัวดีที่ทำหน้าเบื่อพร้อมกับเบะปากนั่นทำให้เขารู้ว่าไอ้ที่บอกว่าสระแล้วนั่นคงสามสี่วันมาแล้ว
“สามวัน”
จากหน้างอก็เริ่มหงิกขึ้นเรื่อยๆ พลางคิดในใจโดนเจ้ารองจับได้อีกแล้ว
เขาเคยปิดอะไรพี่ชายคนนี้ได้บ้าง
“แกจะไปสระเองหรือให้ฉันลากเข้าไป
เลือกเอา” อู๋เออร์ไป๋เดินมาหยุดตรงหน้าน้องชายคนเล็ก
“ไม่เอา! เจ้ารองชอบบังคับ ฉันจะไปหาพี่ใหญ่ให้เขาสระให้!”
เด็กน้อยทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกพี่ชายคนรองคว้าหมับเข้าที่แขนก่อนจะลากตัวน้องชายเดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที
เจ้าสามมันดื้อจริงๆ พูดไม่ฟังกันก็ต้องบังคับกันมั่งล่ะ
“เจ้ารอง! ปล่อยฉันนะ ปล่อย!”
“บอกให้เรียกพี่รอง
ห้ามเรียกฉันว่าเจ้ารอง” อู๋เอ้อร์ไป๋ผลักเจ้าตัวดีเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่ปล่อยโอกาสให้น้องชายเถียงใส่เขา
ซ่า
ซ่า ซ่า
เสียงน้ำจากฝักบัวกระทบใบหน้าและร่างกายเด็กชายอู๋ซันเสิ่งเต็มๆ
เจ้าเด็กดื้อเงียบไปจนอู๋เออร์ไป๋เริ่มเอะใจจึงจับคางน้องชายให้เงยหน้าขึ้น พบว่าดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำตาเอ่อคลอ
“เฮ้อ แค่สระผม
แกก็ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่”
“ฮึก...ก็ผม..ฮึก..ก็พี่รองมาบังคับผมทำไม...ฮือ...”
เมื่อเขาเอ่ยปาก เขื่อน้ำตานั่นก็พังลงมาทันที
เสียงสะอึกสะอื้นของน้องชายทำให้คนเป็นพี่แอบขำ
“ร้องไห้ก็เป็นหรือ
หือ” ก่อนจะได้รับสายตาค้อนขวับกลับมา “ทีนี้ก็อยู่เฉยๆได้แล้ว ฉันจะสระให้” เด็กชายอู๋ซันเสิ่งเงยหน้ามองพี่ชายอย่างแปลกใจก่อนที่จะถูกพี่ชายดึงตัวเขาที่ตัวเปียกโชกเข้ามาใกล้ๆ
เขาถอดเสื้อตัวเองออกพร้อมกับบอกให้อู๋ซันเสิ่งถอดของตัวเองออก
แต่อู๋ซันเสิ่งก็คืออู๋ซันเสิ่ง
เมื่อพี่ชายเริ่มราดน้ำใส่ผมเขา ฝักบัวก็ถูกแย่งมาแล้วสาดใส่คนเป็นพี่จนเปียกโชกไปทั้งตัว
อู๋เอ้อร์ไปขมวดคิ้วพยายามจะแย่งฝักบัวกลับมา
การยื้อแย่งยิ่งทำให้ตัวของเขาเปียกขึ้นไปอีกจนกลายเป็นว่าเขาก็ต้องเปียกไปกับเจ้าน้องชายด้วย
คนที่ก่อเรื่องยืนแลบลิ้นใส่เขาอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องน้ำ
ในมือมีฝักบัวที่คอดสาดเขามาเป็นระยะ
ก่อนที่จะคว้าตัวอีกคนได้ล็อกคอไว้ก่อนจะแย่งฝักบัวในมือน้องชายมาสาดใส่กลับ
กลายเป็นว่าเด็กชายสองคนเล่นน้ำกันอยู่ในห้องน้ำ
กลิ่นหอมของแชมพูและความอบอุ่นแผ่ไปทั่วทุกซอกมุม
สองพี่น้องตระกูลอู๋ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันกลับมีรอยยิ้มเล็กๆให้กันเพราะการสระผม
-------------------------------------------------------------
สามคู่ชู้ชื่น?
//ผิด55555555555555555555555555
แจงค่ะ
จากหัวข้อเป็น #dmbjdaily ของบอร์ดเต้ามู่ไทยแลนด์ค่ะ
(เข้าไปเยี่ยมชมบอร์ดกันได้)
ตอนนั้นเป็นการนับถอยหลังก่อนที่งาน
"ก่อนเราจะพบกันที่ฉางไป๋ซาน" จะเริ่มขึ้น
ทางสตาฟในบอร์ดเห็นว่าด้วงกาวอย่าเราๆ
รอกันอย่าเปื่อยๆจะเบื่อก็เลยคิดหัวข้อขึ้นมาให้ได้เขียน
เรื่องสั้นขึ้นแบบกาวๆพอชุ่มฉ่ำหัวใจ
แต่ในบอร์ดรับทุกรูปแบบค่ะ โดจิน ฟิคยาว ฟิคสั้น OS Drabble
ชี้แจงเผื่อใครงงว่ามันคืออะไรนะคะ
แล้วงานก่อนเราจะพบกันที่ฉางไป๋ซานถูกจัดไปแล้วค่ะในวันอาทิตย์
ที่22สิงหาคม 2558 กำหนดการจริงคือ 16 สิงหา แต่วันนั้นติด bike for mom เลยเลื่อนค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น