9 กันยายน 2558

[OS] #dmbjdaily 27 days left : Shampoo



อารองกับอู๋เสีย

“อารอง”

“...”

“อารองฮะ”

“...”

“อะ...”

“อะไรของแก อู๋เสีย”  เด็กน้อยสะดุ้งโหยงเมื่อผู้เป็นอาหันหลับมาพร้อมสายตาดุๆ แต่น้ำเสียงยังคงปกติ

“คะ...คือ”

“มีอะไรล่ะว่ามาสิ ฉันต้องทำงานต่อนะ”

“อารอง...ว่างมั้ยครับ? คือว่าวันนี้เตี่ยกับม๊าไม่อยู่.....” เด็กน้อยเสียงแผ่วลง ก้มหน้าเขี่ยนิ้วกับหลังมือตัวเอง

“อู๋เสีย” เสียงเรียกชื่อที่ทำให้เด็กน้อยสะดุ้งอีกรอบทำให้รีบเงยหน้าขึ้นมา เบะปาก น้ำตาคลอ “ผะ...ผมสระผมเองไม่ได้....”

“โตแล้วทำไมไม่หัดทำอะไรเอง” อู๋เอ้อร์ไป๋วางเอกสารในมือลง ถอดแว่นออกก่อนจะเดินไปตรงหน้าอู๋เสียก่อนจะชันเข่านั่งลงตรงหน้าหลานตัวน้อย “โตไปเตี่ยกับม๊าแกจะไม่ไปตามสระให้ รู้ไหม” สายตานิ่งติดดุมองสบตากับเด็กน้อย

“แต่วันนี้ฉันจะทำให้ก่อน คราวหน้าต้องทำเอง ตกลงไหม”

“จริงนะครับ?” เด็กน้อยเปลี่ยนสีหน้าทันที ยิ้มกว้างจนแก้มขึ้นเป็นสีแดงเรื่อ เมื่อเห็นอู๋เอ้อร์ไป๋พยักหน้าน้อยๆก็โผเข้ากอดคอผู้เป็นอาเต็มแรงด้วยความดีใจ

“....” คนเป็นอาก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆพร้อมกับลูบผมเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู


“อารองๆ ผมแสบตา มันไหลเข้าตาผม”

“อยู่เฉยๆก่อนได้ไหม เอามือออกอย่าขยี้”

แค่สระผมถึงกับทำให้อู๋เอ้อร์ไป๋เหงื่อซึม  เริ่มได้ยินเสียงสะอื้นของเจ้าหลานชายเพราะเจ็บตา เขาเปิดฝักบัวเอาน้ำล้างน้ำยาสระผมที่ไหลลงมาตามหน้าผากของเขา พอล้างแล้วก็ไหลลงมาอีก เห็นทีถ้าให้เขานั่งอยู่แบบนั้นคงจะไหลลงมาอีกแน่

“เงยหน้าไว้ก่อนอย่าเพิ่งลืมตา”

อู๋เอ้อร์ไป๋ช้อนเอาตัวหลานชายมานั่งบนตัก จับตัวเขาเอนผิงอกให้แหงนหน้าเล็กน้อย ก่อนที่อู๋เสียจะค่อยๆลืมตาขึ้นมา เขากระพริบตาถี่ๆจนลืมตาได้เต็มที่ทั้งสองข้าง

“อารองจะไม่เปียกหรือฮะ” เด็กน้อยเอ่ยถามเสียงใส

“...เปียกสิ อยู่เฉยๆจะล้างผมแล้ว ถ้าดิ้นมันจะไหลเข้าตาแกอีก” อู๋เอ้อร์พูดเสียงเรียบ เอาฝักบัวค่อยราดล้างผมให้อู๋เสียจนหมด

อู๋อี้ฉยงที่เพิ่งกลับมาบ้านพร้อมภรรยาขมวดคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อบ้านเงียบอย่างแปลกๆ พลางมองหาลูกชายตนเอง  ในบ้านเหมือนไม่มีใครอยู่ เจ้ารองหายไปไหน หันไปคุยกับภรรยาตนเองที่เครียดไม่แพ้กัน ขณะที่กำลังจะกดมือถือโทรหาน้องชายคนรอง หูก็พลันได้ยินเสียงแว่วมาจากชั้นบนของบ้าน

อู๋อี้ฉยงและภรรยาเดินตามเสียงนั้นไป เมื่อใกล้ขึ้นก็พบว่านั่นคือเสียงของอู๋เสีย เขาอยู่ในห้องน้ำและกำลังพูดเจื้อยแจ้วถามนั่นนี่ไม่หยุด จากนั้นเสียงนิ่งๆติดดุก็ตอบกลับมา มันทั้งสั้นและห้วน แต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกรอยยิ้มจากพี่ใหญ่ของบ้านได้เป็นอย่างดี

ก็เจ้ารองไม่เคยทำอะไรแบบนี้ คงลำบากไม่น้อยแต่ก็ยอมทำให้หลานชายตัวเอง

อู๋อี้ฉยงหันไปยิ้มน้อยๆกับภรรยาก่อนจะพากันเดินลงไปชั้นล่าง

“อารองฮะ ถ้าคราวหน้าอารองสระผมให้อีกผมสัญญาว่าครั้งต่อไปจะสระเอง”

-------------------------------------------------- ------ -

-เมินโหยวผิงกับอู๋เสีย-

“เสี่ยวเกอ  นี่นายเคยสระผมบ้างรึเปล่า”  ผมเหล่ตาจับผิดคนหน้าตายผ่านเลนส์แว่น นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากถามเขาขึ้นมาในขณะที่อ่านเอกสารบนโต๊ะแล้วเบื่ออย่างบอกไม่ถูก

“...” เขาไม่ได้คำตอบแต่จ้องหน้าผมกลับมาเงียบๆ ผมขมวดคิ้ว นั่นคำตอบของนายหรือไง

“อะไร ฉันแค่ถามเล่นๆเอง ไหนฉันขอดมหน่อย” ว่าแล้วผมก็ลุกจากโต๊ะเดินไปเขย่งน้อยๆจะดมผมเขา หมอนี่จะเตะผมหรือเปล่าเนี่ย...

“อะ....เชี่ย!! ปล่อยๆ ปล่อยฉันลง นายจะทำอะไรเนี่ย”

“สระ....” เขาย่อตัวถือวิสาสะตอนที่ผมเขย่งตัวอุ้มผมขึ้นพาดบ่าแล้วออกเดิน

“นายพูดอะไรนะ?”

“สระให้ฉันหน่อย” เขาเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้ววางผมลง ก่อนที่เขาจะถอดเสื้อออกแล้วยืนมึนๆแบบนั้นอยู่ตรงหน้าผม ผมหรี่ตามองเขา นี่มันบังคับกันชัดๆ ฉันแค่ถามนายเล่นๆเองนะ

เขาไม่ปล่อยโอกาสให้ผมได้ตัดสินใจ ฝักบัวถูกเปิดแล้วน้ำก็สาดลงมาเต็มที่.... หมอนี่แม่ง! แบบนี้ผมก็เปียกไปด้วยน่ะสิ!

“เมินโหยวผิง! นายเปิดน้ำแบบนี้ได้ไง อย่างน้อยถ้านายจะให้ฉันสระก็ให้ฉันถอดเสื้อก่อนสิวะ เปิดมาแบบนี้ฉันก็เปียกน่ะสิ!”  ผมด่าเขาที่ดูเหมือนไม่ได้ยินเสียงผมเลย มึนอะไรอย่างนี้ ผมหงุดหงิดผลักไหล่เขาให้พ้นทาง แต่เขาขืนตัวไว้ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ

“อะไรนาย หลีกไปฉันจะถอดเสื้อ” เขายอมหลบแต่โดยดี ผมเอื้อมมือไปเบาน้ำฝักบัว ขณะนี้ทั้งผมและเมินโหยวผิงเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมถอดเสื้อออกพาดราวไว้ก่อนจะพับขากางเกงขึ้น “ทีนี้นายไปนั่งตรงนั้น ปิดฝาลงก่อน” ผมชี้ไปที่ชักโครก เมินโหยวผิงมองตามมือไปก่อนเขาจะทำอย่างที่ผมบอกและนั่งลง

“ทีนี้นายก็อยู่เฉยๆ” ผมเอื้อมมือไปดึงสายฝักบัวลงมา เปิดน้ำจนสุดก่อนจะเดินไปยืนด้านหลังเขา แต่พบว่าสายฝักบัวไม่ถึง จึงต้องย้ายตัวเองมายืนตรงหน้าเขาแทน

แต่แม่ง

ไอ้ท่าล่อแหลมแบบนี้คืออะไร ผมยืนและเขานั่งผมจึงต้องไปยืนอยู่ตรงหว่างขาเขา

ผมกลั้นหายใจพยายามไม่คิดอะไร หน้าท้องพลันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเมินโหยวผิงที่นั่งนิ่งๆอยู่

“นายสระเองไม่ได้หรือ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมนิ่งๆเช่นเคยก่อนจะส่ายหน้า ผมจนใจ “งั้นนายต้องเงยหน้าไปด้านหลัง ไม่ต้องเงยมาก แล้วก็หลับตา”

เขาเงยหน้าขึ้นมาทำตามที่ผมบอก ผมค่อยๆราดน้ำไปตามเส้นผมของเขา มืออีกข้างก็คอยสางให้น้ำไหลไปให้ทั่วทั้งศีรษะ จนมันเปียกหมดจึงปิดน้ำ หันไปบีบน้ำยาสระผมใส่มือแล้วลงมือสระผมเขา

ขณะนั้นเองเมินโหยวผิงลืมตาขึ้นมา เขามองมาที่ผมเงียบๆ มือผมที่กำลังไล่ขยี้หัวเขาให้แชมพูกระตายไปทั่วพลันชะงักมองเขากลับไป


“มองอะไร คราวหน้านายต้องสระเองรู้ไหม ผู้ชายเขาไม่สระผมให้กันนายไม่รู้หรือ” เขายังคงไม่พูดอะไร จ้องหน้าผมไปเงียบๆจนผมหยุดพูด ผมไม่ได้พูดอะไรต่อจึงเปิดน้ำมาล้างผมให้เขา ตอนที่กำลังล้างแชมพูออกให้เกือบจะหมดนั้นก็สังเกตเห็นรอยสักกิเลนของเขาค่อยๆปรากฏขึ้น

“ทำไมรอยสักนายขึ้นล่ะ? ร้อนหรือ” ผมถามเขามือก็สางผมเขาไปด้วยจนหมด แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบก็ต้องสะดุ้งกับสัมผัสเบาๆที่หน้าท้อง ก่อนที่เอวจะถูกรวบเข้าไปใกล้อีก ผมตกใจจนทำอะไรให้ถูก ยกมือจับที่ไหล่เขาก็เห็นรอยสักชัดขึ้นจนแทบจะเห็นเป็นรูปกิเลน

“มะ....เมินโหยวผิง...”

ฝักบัวหลุดออกจากมือผมทั้งที่ยังไม่ได้ปิดน้ำ เมินโหยวผิงลุกขึ้นมาจับหน้าผมก่อนจะแนบริมฝีปากลงมาหาผม เขาเลื่อนมือลงคว้าเอวผมเข้าไปหาอีก ริมฝีปากฉกจูบอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกเจ็บเล็กน้อยและวาบหวาม ลิ้นร้อนสอดพรวดเข้ามาในปากจนต้องอ้าปากปล่อยให้เขาละเลียดดูดตามใจชอบ ผมได้แต่ยืนนิ่งหลับตาปล่อยเลยตามเลย เสียงจูบของเราดังจ๊วบจ๊าบดังจนผมรู้สึกว่ามันน่าอาย ยกมือจับที่ไหล่ของเขาและบีบแรงๆเมื่ออากาศในปอดแทบจะไม่เหลือ

เมินโหยวผิงผละริมฝีปากออกช้าๆ พร้อมกับมองสบตาผมระยะใกล้ เขาเอียงหน้าไล่จูบไปตามมุมปากของผมที่มีน้ำไหลออกมาจากการบดจูบของงเขาเมื่อครู่ ริมฝีปากร้อนรุ่มของเขาไล่จูบไปทั้งใบหน้าก่อนจะไล่ไปตามลำคอ จนผมรู้สึกว่าแผ่นหลังตัวเองสัมผัสความเย็นของผนังห้องน้ำ มือลูบไล้ไปตามรอยสักของเขาที่ชัดเต็มที่ ก่อนจะยกมือกอดรอบบคอเมินโหยวผิง

ดูท่าการสระผมให้เขาคงอีกนานกว่าจะเสร็จ

-----------------------------------------------------------------------------------------------


อารองกับอาสาม

“เจ้าสาม ฉันบอกให้แกมานี่” อู๋ซันเสิ่งในวัย 5 ขวบใบหน้าง้ำงอนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง มองไปทางพี่ชายคนรองที่ยืนทำหน้าอำมหิตอยู่ที่ประตูห้องน้ำ

“ไม่เอาเจ้ารอง  ก็ฉันอาบน้ำมาแล้วนี่!” คนเป็นน้องแหวใส่ ก่อนจะหันหน้าหนีไปเมื่อไม่อยากสบตาดุๆนั่น จะออกไปก็ไม่ได้โดนเตี่ยดุอีกแน่

“ฉันบอกให้แกสระผม ทำไมไม่สระ ที่บอกว่าสระนั่นมันผ่านมากี่วันแล้ว”

อู๋เอ้อร์ไป๋พูดเสียงเย็น น้องชายตัวดีที่ทำหน้าเบื่อพร้อมกับเบะปากนั่นทำให้เขารู้ว่าไอ้ที่บอกว่าสระแล้วนั่นคงสามสี่วันมาแล้ว 

“สามวัน” จากหน้างอก็เริ่มหงิกขึ้นเรื่อยๆ พลางคิดในใจโดนเจ้ารองจับได้อีกแล้ว เขาเคยปิดอะไรพี่ชายคนนี้ได้บ้าง

“แกจะไปสระเองหรือให้ฉันลากเข้าไป เลือกเอา” อู๋เออร์ไป๋เดินมาหยุดตรงหน้าน้องชายคนเล็ก

“ไม่เอา! เจ้ารองชอบบังคับ ฉันจะไปหาพี่ใหญ่ให้เขาสระให้!” เด็กน้อยทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกพี่ชายคนรองคว้าหมับเข้าที่แขนก่อนจะลากตัวน้องชายเดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที เจ้าสามมันดื้อจริงๆ พูดไม่ฟังกันก็ต้องบังคับกันมั่งล่ะ

“เจ้ารอง! ปล่อยฉันนะ ปล่อย!

“บอกให้เรียกพี่รอง ห้ามเรียกฉันว่าเจ้ารอง” อู๋เอ้อร์ไป๋ผลักเจ้าตัวดีเข้าไปในห้องน้ำ ไม่ปล่อยโอกาสให้น้องชายเถียงใส่เขา

ซ่า ซ่า ซ่า

เสียงน้ำจากฝักบัวกระทบใบหน้าและร่างกายเด็กชายอู๋ซันเสิ่งเต็มๆ เจ้าเด็กดื้อเงียบไปจนอู๋เออร์ไป๋เริ่มเอะใจจึงจับคางน้องชายให้เงยหน้าขึ้น พบว่าดวงตาทั้งสองข้างมีน้ำตาเอ่อคลอ

“เฮ้อ  แค่สระผม  แกก็ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่”

“ฮึก...ก็ผม..ฮึก..ก็พี่รองมาบังคับผมทำไม...ฮือ...” เมื่อเขาเอ่ยปาก เขื่อน้ำตานั่นก็พังลงมาทันที เสียงสะอึกสะอื้นของน้องชายทำให้คนเป็นพี่แอบขำ

“ร้องไห้ก็เป็นหรือ หือ” ก่อนจะได้รับสายตาค้อนขวับกลับมา “ทีนี้ก็อยู่เฉยๆได้แล้ว ฉันจะสระให้” เด็กชายอู๋ซันเสิ่งเงยหน้ามองพี่ชายอย่างแปลกใจก่อนที่จะถูกพี่ชายดึงตัวเขาที่ตัวเปียกโชกเข้ามาใกล้ๆ เขาถอดเสื้อตัวเองออกพร้อมกับบอกให้อู๋ซันเสิ่งถอดของตัวเองออก

แต่อู๋ซันเสิ่งก็คืออู๋ซันเสิ่ง เมื่อพี่ชายเริ่มราดน้ำใส่ผมเขา ฝักบัวก็ถูกแย่งมาแล้วสาดใส่คนเป็นพี่จนเปียกโชกไปทั้งตัว อู๋เอ้อร์ไปขมวดคิ้วพยายามจะแย่งฝักบัวกลับมา การยื้อแย่งยิ่งทำให้ตัวของเขาเปียกขึ้นไปอีกจนกลายเป็นว่าเขาก็ต้องเปียกไปกับเจ้าน้องชายด้วย

คนที่ก่อเรื่องยืนแลบลิ้นใส่เขาอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องน้ำ ในมือมีฝักบัวที่คอดสาดเขามาเป็นระยะ ก่อนที่จะคว้าตัวอีกคนได้ล็อกคอไว้ก่อนจะแย่งฝักบัวในมือน้องชายมาสาดใส่กลับ

กลายเป็นว่าเด็กชายสองคนเล่นน้ำกันอยู่ในห้องน้ำ
กลิ่นหอมของแชมพูและความอบอุ่นแผ่ไปทั่วทุกซอกมุม สองพี่น้องตระกูลอู๋ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันกลับมีรอยยิ้มเล็กๆให้กันเพราะการสระผม


-------------------------------------------------------------

 สามคู่ชู้ชื่น? //ผิด55555555555555555555555555
แจงค่ะ จากหัวข้อเป็น #dmbjdaily ของบอร์ดเต้ามู่ไทยแลนด์ค่ะ (เข้าไปเยี่ยมชมบอร์ดกันได้)
ตอนนั้นเป็นการนับถอยหลังก่อนที่งาน "ก่อนเราจะพบกันที่ฉางไป๋ซาน" จะเริ่มขึ้น
ทางสตาฟในบอร์ดเห็นว่าด้วงกาวอย่าเราๆ รอกันอย่าเปื่อยๆจะเบื่อก็เลยคิดหัวข้อขึ้นมาให้ได้เขียน
เรื่องสั้นขึ้นแบบกาวๆพอชุ่มฉ่ำหัวใจ แต่ในบอร์ดรับทุกรูปแบบค่ะ โดจิน ฟิคยาว ฟิคสั้น OS Drabble 
ชี้แจงเผื่อใครงงว่ามันคืออะไรนะคะ แล้วงานก่อนเราจะพบกันที่ฉางไป๋ซานถูกจัดไปแล้วค่ะในวันอาทิตย์
ที่22สิงหาคม 2558 กำหนดการจริงคือ 16 สิงหา แต่วันนั้นติด bike for mom เลยเลื่อนค่ะ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น